รรท.ผบ.ตร. แถลง ผลการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา คดียิง M79 ใส่กลุ่มชุมนุม กปปส. พร้อมคุมตัวทำแผนประกอบคำสารภาพที่แยกประตูน้ำ และขอขมาญาติผู้เสียชีวิต
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายทวีชัย วิชาคำ นายสุนทร ผิผ่วนนอก นายชัชวาล ปราบบำรุง และ นายสมศรี มาฤทธิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ฐานร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกันทำให้เกิดระเบิด และข้อหาอื่น ๆ รวม 8 ข้อหา โดยสามารถจับกุมได้ย่านสายไหม พร้อมยึดของกลางรถยนต์กระบะ 3 คัน เครื่องยิงลูกระเบิด M79 จำนวน 1 เครื่อง ลูกยิงระเบิดชนิด 40 มิลลิเมตร หรือ M79 จำนวน 25 ลูก อาวุธปืนสงครามชนิด M16 จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุนขนาด .576 หรือเอ็ม16 จำนวน 70 นัด อาวุธปืนไรเฟิล จำนวน 1 กระบอก และลูกระเบิดสังหารชนิดขว้าง จำนวน 5 ลูก
หลังร่วมกันก่อเหตุยิงระเบิดชนิด M79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. บริเวณหน้าห้างบิ้กซีราชดำริ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
โดย พล.ต.อ.สมยศ ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่จับกุมได้ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีการวางแผนที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านสายไหม ขณะก่อเหตุได้ใช้รถยนต์กระบะ จำนวน 3 คัน โดยมีรถนำขบวน ตามด้วยรถที่คนร้ายก่อเหตุยิง และรถปิดท้าย
เบื้องต้น นายทวีชัย รับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ยิงโดยยิงลูกระเบิดจากในรถ ใช้ความเร็วประมาณ 40 ถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนชะลอรถยิงจากบริเวณสะพานข้ามแยกประตูน้ำ เป้าหมายคือพื้นที่ชุมนุม กปปส. จากนั้นผู้ต้องหาได้ขอขมาญาติผู้เสียชีวิต โดยกล่าวว่า รู้สึกสำนึกผิดไม่ได้ตั้งใจให้มีผู้เสียชีวิต และขอไปชดใช้กรรมในคุก
ด้านญาติผู้เสียชีวิต ได้ขอบคุณตำรวจที่จับคนร้ายได้ พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และตั้งแต่วันเกิดเหตุไม่เคยมีความสุข แต่ก็ได้อโหสิกรรมให้กับผู้ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม หลังการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณสะพานข้ามแยกประตูน้ำทันที
คุมตัว 4 ผู้ต้องหายิง M79 ทำแผนรับสารภาพ ก่อนฝากขัง
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คุมตัวนายทวีชัย วิชาคำ นายสุนทร ผิผ่วนนอก นายชัชวาล ปราบบำรุง และ นายสมศรี มาฤทธิ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุยิง M79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ที่หน้าบิ๊กซีราชดำริ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดที่ 1 คือบริเวณกลางสะพานข้ามแยกประตูน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาขับรถ 3 คัน มาจากแยกราชปรารภ ด้วยความเร็ว 40-60 กม./ช.ม. ก่อนจะจอดรถกลางสะพาน และ นายทวีชัย มือยิงซึ่งนั่งอยู่ภายในรถคันที่ 2 ลดกระจกลง พร้อมใช้เครื่องยิง M79 ยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. ทำมุม 60 องศา ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ที่ด้านหน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ และขับรถหลบหนีมุ่งหน้าแยกอโศก-เพชรบุรี
จุดที่ 2 บริเวณทางขึ้นทางด่วนมักกะสัน ซึ่งเป็นสถานที่ ที่รวมตัวกันอีกครั้งก่อนหลบหนีมุ่งหน้าบ้านพักซอยสายไหม 75/1 และจุดที่ 3 คือ บ้านพักเลขที่ 35/1 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาทั้งหมดใช้วางแผนก่อนการก่อเหตุ ประมาณ 20 นาที ก่อนขับรถทั้ง 3 คันออกไปเติมน้ำมัน จากนั้นเดินทางไปทำแผนต่อจุดที่ 4 ซึ่งเป็นจุดรับอาวุธที่บ้านพักเลขที่ 63/2070 คลอง 9 ซอย 7 ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ของ นายสุนทร ก่อนแยกย้ายขึ้นทางด่วนไปลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และนัดรวมตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์ จากนั้นขับรถต่อไปยังสะพานข้ามแยกประตูน้ำและก่อเหตุ
ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การด้วยว่า มีการนัดรวมตัวเพื่อวางแผนก่อนก่อเหตุไม่นานนัก พร้อมยอมรับว่ามีคนชื่อ "ต้อม" ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงเป็นผู้จ้างวานให้ลงมือก่อเหตุ โดยได้รับค่าจ้างเป็นอาวุธปืน 2 กระบอก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการทำแผนเจ้าหน้าที่จะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปยัง สน.ลุมพินีเพื่อสอบปากคำ ก่อนนำตัวขออนุญาตศาลเพื่อฝากขังผลัดแรก
news.sanook.com/1630209
คุม4มือถล่มM79ราชดำริทำแผนจ่อฝากขัง-ล่าอีก3
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายทวีชัย วิชาคำ นายสุนทร ผิผ่วนนอก นายชัชวาล ปราบบำรุง และ นายสมศรี มาฤทธิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ฐานร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกันทำให้เกิดระเบิด และข้อหาอื่น ๆ รวม 8 ข้อหา โดยสามารถจับกุมได้ย่านสายไหม พร้อมยึดของกลางรถยนต์กระบะ 3 คัน เครื่องยิงลูกระเบิด M79 จำนวน 1 เครื่อง ลูกยิงระเบิดชนิด 40 มิลลิเมตร หรือ M79 จำนวน 25 ลูก อาวุธปืนสงครามชนิด M16 จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุนขนาด .576 หรือเอ็ม16 จำนวน 70 นัด อาวุธปืนไรเฟิล จำนวน 1 กระบอก และลูกระเบิดสังหารชนิดขว้าง จำนวน 5 ลูก
หลังร่วมกันก่อเหตุยิงระเบิดชนิด M79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. บริเวณหน้าห้างบิ้กซีราชดำริ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
โดย พล.ต.อ.สมยศ ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่จับกุมได้ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีการวางแผนที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านสายไหม ขณะก่อเหตุได้ใช้รถยนต์กระบะ จำนวน 3 คัน โดยมีรถนำขบวน ตามด้วยรถที่คนร้ายก่อเหตุยิง และรถปิดท้าย
เบื้องต้น นายทวีชัย รับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ยิงโดยยิงลูกระเบิดจากในรถ ใช้ความเร็วประมาณ 40 ถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนชะลอรถยิงจากบริเวณสะพานข้ามแยกประตูน้ำ เป้าหมายคือพื้นที่ชุมนุม กปปส. จากนั้นผู้ต้องหาได้ขอขมาญาติผู้เสียชีวิต โดยกล่าวว่า รู้สึกสำนึกผิดไม่ได้ตั้งใจให้มีผู้เสียชีวิต และขอไปชดใช้กรรมในคุก
ด้านญาติผู้เสียชีวิต ได้ขอบคุณตำรวจที่จับคนร้ายได้ พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และตั้งแต่วันเกิดเหตุไม่เคยมีความสุข แต่ก็ได้อโหสิกรรมให้กับผู้ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม หลังการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณสะพานข้ามแยกประตูน้ำทันที
คุมตัว 4 ผู้ต้องหายิง M79 ทำแผนรับสารภาพ ก่อนฝากขัง
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คุมตัวนายทวีชัย วิชาคำ นายสุนทร ผิผ่วนนอก นายชัชวาล ปราบบำรุง และ นายสมศรี มาฤทธิ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุยิง M79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ที่หน้าบิ๊กซีราชดำริ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดที่ 1 คือบริเวณกลางสะพานข้ามแยกประตูน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาขับรถ 3 คัน มาจากแยกราชปรารภ ด้วยความเร็ว 40-60 กม./ช.ม. ก่อนจะจอดรถกลางสะพาน และ นายทวีชัย มือยิงซึ่งนั่งอยู่ภายในรถคันที่ 2 ลดกระจกลง พร้อมใช้เครื่องยิง M79 ยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. ทำมุม 60 องศา ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ที่ด้านหน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ และขับรถหลบหนีมุ่งหน้าแยกอโศก-เพชรบุรี
จุดที่ 2 บริเวณทางขึ้นทางด่วนมักกะสัน ซึ่งเป็นสถานที่ ที่รวมตัวกันอีกครั้งก่อนหลบหนีมุ่งหน้าบ้านพักซอยสายไหม 75/1 และจุดที่ 3 คือ บ้านพักเลขที่ 35/1 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาทั้งหมดใช้วางแผนก่อนการก่อเหตุ ประมาณ 20 นาที ก่อนขับรถทั้ง 3 คันออกไปเติมน้ำมัน จากนั้นเดินทางไปทำแผนต่อจุดที่ 4 ซึ่งเป็นจุดรับอาวุธที่บ้านพักเลขที่ 63/2070 คลอง 9 ซอย 7 ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ของ นายสุนทร ก่อนแยกย้ายขึ้นทางด่วนไปลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และนัดรวมตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์ จากนั้นขับรถต่อไปยังสะพานข้ามแยกประตูน้ำและก่อเหตุ
ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การด้วยว่า มีการนัดรวมตัวเพื่อวางแผนก่อนก่อเหตุไม่นานนัก พร้อมยอมรับว่ามีคนชื่อ "ต้อม" ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงเป็นผู้จ้างวานให้ลงมือก่อเหตุ โดยได้รับค่าจ้างเป็นอาวุธปืน 2 กระบอก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการทำแผนเจ้าหน้าที่จะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปยัง สน.ลุมพินีเพื่อสอบปากคำ ก่อนนำตัวขออนุญาตศาลเพื่อฝากขังผลัดแรก
news.sanook.com/1630209